Record of Youth (เส้นทางดาว) พากย์ไทย 1- 16

          เรื่องราวของ ซาฮเยจุน (อายุ 26 ปี นายแบบและนักแสดงผู้มีความทะเยอทะยาน) ไม่ฝันเฟื่องและอยู่กับความเป็นจริง จิตใจอ่อนโยนทว่าขอบเขตชัดเจน หลักแหลมและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขารู้ว่าตัวเองชอบไม่ชอบอะไร และยินดีจะทำสิ่งที่ไม่ชอบถ้ามันจะเป็นหนทางทำให้เขาไปสู่เป้าหมายได้

เขามักถูกนำไปเปรียบเทียบกับพี่ชายมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งทำให้อะไรต่อมิอะไรยากไปหมด เขารู้ตัวดีว่าไม่มีทางประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนเกินหน้าพี่ชายได้ จึงหันไปหาอะไรบางอย่างที่ตัวเองทำได้ดีและชื่นชอบแทน เขาคิดว่าการพยายามทำอะไรซ้ำ ๆ ที่ไม่นำพาไปสู่ความสำเร็จ เป็นเรื่องโง่เขลา และหากทำไม่ได้ก็ช่างมันดีกว่า แต่มีข้อยกเว้นอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือฮเยจุนไม่อาจปล่อยมือจากความฝันที่จะเป็นนักแสดงได้ แม้มองเห็นตรงหน้าแต่ก็เอื้อมคว้าไม่ถึง กระนั้นเขาก็ไม่ยอมทิ้งฝันนี้เด็ดขาด

ผู้คนมากมายพากันมอบความรักให้เขาโดยไม่ต้องมีเหตุผลใด ๆ เหมือนกับว่าเขาเกิดมาเพื่อที่จะได้รับความรัก แต่กับครอบครัวของเขาแล้ว กลับเป็นหนังคนละม้วน ฮเยจุนเชื่อว่า มินจี คุณตาของเขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่รักและเข้าใจเขา ฮเยจุนจึงรักคุณตาเป็นพิเศษ ส่วนคุณแม่นั้นเขารู้สึกเฉย ๆ ไม่บวกไม่ลบ แต่ความสัมพันธ์กับ ยังนัม ผู้เป็นพ่อ เข้าขั้นเลวร้าย แม้ยังนัมจะรักฮเยจุนมาก แต่ก็มีความรู้สึกเกลียดชังฝังอยู่ลึก ๆ เพราะลูกชายคนนี้หน้าตาเหมือนพ่อของเขาเหลือเกิน

ฮเยจุนอยากให้ผู้เป็นพ่อปลื้มใจในตัวเขาบ้าง จึงขยันเรียนอย่างหนัก แต่ก็ไม่เคยได้ผลการเรียนที่ดีกว่า คยองจุน พี่ชายเลย เขาจึงมองพี่ชายเป็นคู่แข่งที่ต้องเอาชนะให้ได้ แต่วันหนึ่งเขาก็เปลี่ยนใจเมื่อตระหนักว่า การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมีแต่จะทำให้ความภาคภูมิใจในตัวเองลดลง และความคิดนี้เองที่ทำให้เขาเติบโตขึ้น ตอนนี้ฮเยจุนไม่คิดที่จะแข่งกับใครอีก โดยเฉพาะคุณไม่ควรแข่งขันกับคนในครอบครัวตัวเอง วุฒิภาวะนี้เองที่ช่วยเขาในเส้นทางอาชีพนายแบบได้

พ่อของฮเยจุนต้องการให้เขาเป็นข้าราชการและใช้ชีวิตที่มั่นคงกว่าที่ผ่านมา แต่ฮเยจุนกลับทำตรงข้ามกับความปรารถนาของพ่อ เขาสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติเกาหลีเพื่อเป็นนักแสดง หลังเรียนไปได้เพียงปีเดียวเขาก็ลาออก เพราะพ่อแม่ต้องจ่ายค่าเรียนให้ทั้งเขาและพี่ชาย คือ คยองจุน เขาเลยหยุดเรียน เขาคิดว่าแทนที่จะเรียนไปมากกว่านี้ สู้ใช้ทักษะที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า ในเมื่อทักษะด้านการแสดงยังไม่เข้าขั้น เขาเลยตัดสินใจจะหาเงินและประหยัดเวลาด้วยการเป็นนายแบบไปก่อน

เมื่อมาเป็นนายแบบ หน้าตาที่หล่อเหลาของเขากลับเป็นอุปสรรค เหล่าดีไซเนอร์มักเลือกแฮฮโยก่อนฮเยจุน แต่ในที่สุดฮเยจุนก็โด่งดังได้ด้วยความขยันและพรสวรรค์ที่มาพร้อมความมีสไตล์ เขารับรู้ได้ว่าใคร โดยเฉพาะผู้หญิง ที่มองเขาเปลี่ยนไปบ้าง เมื่อรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ในย่านฮันนัมดง ใครต่อใครพากันคิดว่าเขารวย แม้ความจริงจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทว่าภาพลักษณ์ดังกล่าวทำร้ายเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาเป็นคนเปิดเผยและมองโลกในแง่ดีอย่างแท้จริง บางคนวิจารณ์เขาว่าไม่รู้จักโตและหวังอะไรไม่ได้ แต่เขาไม่เปลี่ยนตัวเองเพราะความคิดของคนอื่น เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร และแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้น ในขณะที่ต้องเผชิญกับความหนักหนาสาหัสของชีวิต ก็มีบ่อยครั้งที่เขาต้องเสียน้ำตา

อันจองฮา (อายุ 26 ปี เมคอัพอาร์ตติสท์) “งานก็โอเค ความรักก็รับได้ แต่ไม่เอา ไม่แต่งงาน เงินที่ดีที่สุดคือเงินที่ฉันหาเอง” หญิงสาวที่มีจิตใจดีและอ่อนโยน พยายามมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดี พ่อแม่ของเธอหย่ากัน จนเธอต้องย้ายโรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง เธอจึงรู้จักปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ สมัยเด็ก ๆ เธอคิดว่าการเรียนคือหนทางเดียวที่จะพิสูจน์ความสามารถได้ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม เธอรักษาบาดแผลที่มีและพิสูจน์ตัวเองโดยไม่ปริปากบอกใครถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ชีวิตคือการเดินทางไกลที่ต้องจัดการด้วยตัวเอง

ใคร ๆ ก็บอกว่าจองฮาปากตรงกับใจ แต่ความจริงแล้วเธอยั้งตัวเองไว้บ่อย ๆ เธอเป็นที่ชื่นชอบและเข้าใจคนอื่นเป็นอย่างดี ไปไหนมาไหนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทุกคนต่างพากันคิดว่าเธอคือนักศึกษาด้านการเดินแบบ ในความเป็นจริง เธอร้องไห้เป็นประจำเวลาอยู่คนเดียว เธอรู้สึกอ้างว้างได้ง่าย ๆ เพราะแบบนี้เอง จึงต้องแกล้งทำเป็นเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเหงา เธอจึงสถาปนาตัวเองเป็นติ่งตัวแม่ ติดตามเหล่าไอดอลไปทั่ว บูชาเหล่าซุปตาร์เท่าชีวิต และหลักเกณฑ์สำคัญที่สุดของเธอคือหน้าตา พวกเขาต้องหล่อในระดับที่แค่มองก็ทำให้ยิ้มได้ทั้งวัน

ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอคลั่งนายแบบคนหนึ่ง นั่นคือซาฮเยจุน แค่ฟังชื่อก็เคลิ้มแล้ว ชื่อของเขาพ้องเสียงกับคำว่าการอภัยโทษในภาษาเกาหลี บางทีเขาคงยกโทษให้ ถ้าเธอทำอะไรไม่ดีใส่ เธอชอบที่ทั้งเธอและเขาเกิดปี 1993 ซึ่งเป็นปีระกาเหมือนกัน เธอชอบพลังงานที่สดใสของเขา จึงยกตำแหน่งไอดอลหมายเลขหนึ่งให้ด้วยความเต็มใจ

จองฮามาจากเมืองชองจู เธอเดินทางมาที่โซลเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัย และทำให้พ่อแม่ภูมิใจด้วยการสอบติดหนึ่งในสาม มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของเกาหลีได้ ระหว่างนั้นก็รับงานสอนพิเศษระดับสูงที่รายได้ดีควบคู่กันไปด้วย เพื่อหาค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จองฮาขยันขันแข็งทำงานตัวเป็นเกลียวและมีความฝันที่จะเป็นเมคอัพอาร์ตติสท์ แต่ในความเป็นจริง เธอรู้ดีว่าเธออาจจะถังแตกได้ ถ้าวิ่งไล่ตามความฝันนั้น ซึ่งความยากจนก็จะทำให้ชีวิตเลวร้าย อีกทั้งเธอยังรู้ดีว่าอาชีพที่เธอใฝ่ฝันจะทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายขนาดไหน เมื่อต้องย้ายไปย้ายมาไม่หยุดหย่อนโดยไม่มีบ้าน ในขณะที่เธออยากมีบ้านเป็นของตัวเอง

จองฮารู้ว่าเธอต้องใช้เงินเพื่อเอาชีวิตรอดไปในแต่ละวัน และทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ เธอทำให้พ่อแม่หัวใจพองโตด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้ง เพราะเธอได้งานที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เธอมีทุกอย่างที่อยากมี แต่เธอกลับลาออกจากงานหลังผ่านไปแค่สามปี หัวหน้าทีมพยายามเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนใจ แต่เธอคิดแล้วว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปจะทำให้เธอไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตารูปถ้วยรางวัล

หลังลาออกจากงาน เธอได้งานเป็นทีมแต่งหน้าในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งย่านชองดัมดง จองฮาทุ่มเท 200% จนได้โอกาสแต่งหน้าให้นายแบบนางแบบที่งานแฟชั่นวีคของดีไซเนอร์ ชาร์ลี จอง เธอดีใจแทบคลั่งเมื่อรู้ว่านายแบบคนโปรดอย่างซาฮเยจุนจะมาขึ้นเวทีด้วย หญิงสาวพยายามสงบสติอารมณ์และบอกตัวเองว่างานต้องมาก่อน ในวันที่มีแฟชั่นโชว์ของเจน ซง หลังเวทีวุ่นวายสุด ๆ นายแบบนางแบบและทีมงาน เหล่าเมคอัพอาร์ตติสท์ ฮเยจุน จองฮา และแฮฮโย ล้วนอยู่ที่นั่น จองฮาเห็นฮเยจุน แต่พยายามตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า แม้พยายามเต็มที่แล้วที่จะไม่วอกแวก เธอก็เข้าไปมีเอี่ยวในความวุ่นวายนั้นอยู่ดี