เรื่องย่อซีรีส์จีน “Rebirth For You – ตำนานเจียหนาน” [2021]
ชื่อเรื่อง : Rebirth For You
ชื่อจีน : 嘉南传 | เจียหนานฉวน
ชื่อไทย : ตำนานเจียหนาน
ประเทศผู้ผลิต : จีน
แนวซีรีส์ : โรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี ประวัติศาสตร์
ผู้กำกับ : จื้อเหล่ย (Zhi Lei, ชาย, ผลงานกำกับ The Legend of White Snake | ตำนาน (รัก) นางพญางูขาว, iQIYI – 2019)
ผู้เขียนบท : จวีฝางฟาง (Ju FangFang, หญิง, ผลงานเขียนบท Legend of Yun Xi | หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ, iQIYI – 2018)
ผู้ผลิตซีรีส์ : –
ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง : Mu Nan Zhi (慕南枝) | มู่หนานจื่อ
ผู้ประพันธ์ : จือจือ (Zhi Zhi)
รายชื่อนักแสดง : รายชื่อนักแสดง : จวีจิ้งอี รับบทเป็น เจียงเป่าหนิง, เจิงซุ่นซี รับบทเป็น หลี่เชียน, วังจั๋วเฉิง รับบทเป็น จ้าวเซี่ยว, หวังอี้ถิง รับบทเป็น หลี่ตงจื้อ, หลี่อี้เจิน รับบทเป็น เกาเมี่ยวหรง, หลี่อวิ๋นรุ่ย รับบทเป็น องค์ชายชิ่งอัน, โจวจ้าวหยวน รับบทเป็น ฮ่องเต้จ้าวอี้ หรือ อี้เอ๋อร์, เวิ่งหง รับบทเป็น เฉาไทเฮา, เฉาชุ่ยเฟิน รับบทเป็น ไทฮองไทเฮา
ท่านหญิงเจียหนาน เจียงเป่าหนิง หรือ จวิ้นจู่ (รับบทโดย จวีจิ้งอี) กำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเล็ก เติบโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูด้วยความรักของท่านยาย ไทฮองไทเฮา (รับบทโดย นักแสดงอาวุโสเฉาชุ่ยเฟิน) อาศัยความเฉลียวฉลาดของตัวเอง ถ่วงดุลอำนาจภายในราชสำนักของแต่ละฝ่ายเอาไว้
เป็นที่รับรู้กันว่า ภายหลังการสวรรคตของฮ่องเต้พระองค์ก่อน แคว้นมู่อัน ตกอยู่ภายใต้การปกครอง ว่าราชการหลังม่านของ เฉาไทเฮา (รับบทโดย เวิ่งหง) ขณะที่ ฮ่องเต้จ้าวอี้ (รับบทโดย โจวจ้าวหยวน) ออกนั่งบัลลังก์เป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น
ฮ่องเต้ รักใคร่และหวังจะได้แต่งงานกับ เจียงเป่าหนิง แท้จริงเพื่อครอบครองกำลังทหารจากจวนเจิ้นกั๋วจง ซึ่งถือสิทธิ์ในการคุมกำลังทหารและหนุนหลังจวิ้นจู่มาแต่รุ่นพ่อของนาง เจียงเป่าหนิง ไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้ใคร และกำแพงวังสูงเทียมฟ้าก็มิอาจขัดขวางท่านหญิงเจียหนานจอมแก่นคนนี้ได้
ด้วยความช่วยเหลือจาก ฉิงเค่อ นางกำนัลคนสนิท เป่าหนิงหนีงานแต่งงานออกไปนอกวัง จนได้รู้จักกับ หลี่เชียน (รับบทโดย เจิงซุ่นซี) ทหารองครักษ์รักษาพระองค์ของหานไทเฮา และยังได้รู้จักกับ จ้าวเซี่ยว (วังจั๋วเฉิง) บุตรชาย ผู้ปกครองเมืองจิ้งไห่โหว ในคราวเดียวกัน จ้าวเซี่ยวกับหลี่เชียนหลงรักเป่าหนิงตั้งแต่แรกเจอ
ในที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ ฮ่องเต้จ้าวอี้ พร้อมกำลังทหารของ นายพล เจิ้นกั๋วกง บุกไปล้อมตำหนักของไทเฮา ในวันฉลองวันเกิดของพระนาง ทั้งนี้เพื่อขอคืนตราลัญจกรหยกของแคว้นมู่อัน แต่หลังจากมอบตราลัญจกรให้ลูกชาย โดยไม่มีใครคาดคิดไทเฮากลับควักมีดสั้นออกมาหมายจะปาดคอของนาง แต่หลี่เชียนขัดขวางไว้ได้ทัน
ระหว่างนั้น ท่านยายไทฮองไทเฮา ซึ่งรู้เรื่องจาก จวิ้นจู่ และ จ้าวเซี่ยว จึงรีบพานางกำนัลฟางอี้หรู ที่ท้องโย้จวนคลอด ตรงเข้ามาถามฮ่องเต้ว่า เด็กในครรภ์ของฟางอี้หรู เป็นลูกของฮ่องเต้จริงหรือไม่
เมื่อฮ่องเต้ยอมรับ ไทฮองไทเฮาจึงประกาศลั่นต่อหน้าราชวงศ์ ที่กำลังแสดงละครชีวิตฉากใหญ่ว่า ตนจะปกป้องทารกในครรภ์ฟางอี้หรูอย่างเต็มกำลัง ไม่สนหน้าไหนใครทั้งสิ้น
เมื่อฮ่องเต้ได้สติก็รีบเข้ามาพูดเอาใจเจียงเป่าหนิง ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป่าหนิงเล่นละครอีกฉากตัดพ้อต่อว่าฮ่องเต้ แล้วรีบกลับตำหนักไป แต่ก่อนไปไม่วายหันมาขยิบตาให้ องค์รักษ์หลี่เชียนที่ยืนงงในดงราชวงศ์อยู่ ฮ่องเต้จะตามไป แต่ฟางอี้หรูร้องโอดโอยจะคลอดลูก
ลูกของฟางอี้หรูคลอดก่อนกำหนดเป็นชาย เฉาไทเฮาสบโอกาส นำตัวโอรสไปเลี้ยงดูที่ตำหนักเชียนฝอ บนเขาว่านโซว่ อ้างว่าจะวางมือจากราชการไปพักผ่อน แท้จริงเฝ้ารอวันกลับมาทวงอำนาจคืน
แม้ทั้ง เจียงเป่าหนิง และ หลี่เชียน ต่างฝ่ายต่างมีใจให้กันแต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยความในใจ โดยเฉพาะหลี่เชียน ซึ่งถ่อมตนว่าเป็นเพียงลูกเจ้าเมืองเล็กๆ แถบชายแดน แถมดูดูแคลนว่าสืบเชื้อสายมาจากโจรป่า จึงไม่กล้าอาจเอื้อม กอรปกับไทฮองไทเฮา ก็เร่งหาชายที่จะมาแต่งงานคอยคุ้มครองดูแลหลานสาวสุดที่รัก กลับหมายตา จ้าวเซี่ยว ซื่อจื่อแห่งจิ้งไห่โหว ถึงขั้นเดินทางไปแจ้งต่อเฉาไทเฮาที่ตำหนักเชียนฝอ บนเขาว่านโซว่ เพื่อให้เลือกวันมงคล และประกาศพระเสาวนีย์พระราชทานสมรสออกไป
แต่หานฮองเฮา พระชายาของฮ่องเต้จ้าวอี้ซึ่งไม่กินเส้นกับเป่าหนิงมาแต่ไหนแต่ไร เร่งเดินทางล่วงหน้ามาก่อนเพื่อหาทางคัดค้านการแต่งงานของเป่าหนิงแต่ไม่สำเร็จ จึงให้ไป่เหอนางกำนัลคนสนิทไปเผาท้องพระคลัง ซึ่งเป่าหนิงกำลังแอบเข้าไปหา สมุดภาพอาวุธเทวะวิญญาณ และสลบติดกองเพลิงอยู่ในนั้นเพียงลำพัง วินาทีที่ฟื้นขึ้นมาโดยคิดว่าตัวเองต้องตายเป็นแน่แท้ เจียงเป่าหนิง ตัดสินใจเผยอหน้าขึ้นจุมพิตฝีปากของหลี่เชียนที่ฝ่าเปลวเพลิงเข้ามาช่วย เปิดเผยความในใจออกมาจนหมดสิ้นก่อนจะสลบไปอีกครั้ง
เมื่อช่วยออกมาได้ หลี่เชียนกลับวางร่างเป่าหนิงไว้ในที่ปลอดภัยแล้วเร้นกายจากไป แอบยืนมองจ้าวเซี่ยวอุ้มร่างนางออกไปอย่างโล่งใจ
เกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่อ จู่ๆ องค์ชายชิ่งไท่ องค์ชายใหญ่แคว้นหย่งชิ่ง ซึ่งมาเข้าเฝ้าไทเฮาเกิดพึงพอใจในตัวเป่าหนิง จึงทูลขอแต่งงานกับเจียหนานจิ้นจวู่ กลางงานเลี้ยงพระราชทานของเฉาไทเฮา และต่อหน้าฮ่องเต้ที่เสด็จมาร่วมงานด้วย องค์ชายชิ่งไท่อ้างว่าเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของสองแคว้น แต่ถูกไทเฮาปฏิเสธ เพราะได้ตัดสินใจยกเป่าหนิงให้กับจ้าวเซี่ยวแล้ว รอเพียงป่าวประกาศออกไป
องค์ชายชิ่งไท่ ไม่ยอมง่ายๆ อ้างว่า เมื่อยังไม่ได้แต่งก็ถือว่าไม่นับ และว่าตนก็ยังมีสิทธิ์อยู่ จึงประกาศท้าสู้กับจ้าวเซี่ยว แข่งขันอย่างยุติธรรมใครชนะก็ได้เจียหนานจิ้นจวู่ไปครอง แถมยังบอกเชิงขู่ในทีว่าหากแคว้นมู่อันไม่ยอม ก็อย่าหาว่าแคว้นหย่งชิ่งที่ต้องทำลายไมตรีระหว่างสองแคว้นลง ทำเอาเฉาไทเฮาต้องคิดหนัก
ฝ่ายจวิ้นจู่ สารภาพกับ ซู่ซู่ เพื่อนรักว่า ที่ตนตัดสินใจแต่งงานกับจ้าวเซี่ยวก็เพราะเห็นแก่ท่านยายที่ชรามากแล้วนั่นเอง
โดยไม่มีใครคาดคิด ฮ่องเต้กลับเห็นด้วยที่ให้ทั้งคู่ประลองกัน หลี่เชียน มาทันได้ยินก็ไม่พอใจมาก เพราะรู้ดีว่า องค์ชายชิ่งไท่ เป็นคนโหดเหี้ยมร้ายกาจ และที่สำคัญเพิ่งสังหารคนของตนไป เพราะไม่พอใจที่บังอาจไปลบหลู่ ในวันที่เดินทางมาถึงเขาว่านโซว่ หลี่เชียนจึงแนะนำการต่อสู้ให้กับจ้าวเซี่ยว
การทดสอบพลังรอบแรกผลออกมาคู่คี่กันมาก จึงได้มีการแข่งขันด้วยการแข่งม้า หลี่เชียน ปลอมตัวเข้าสู้แทน เพราะจ้าวเซี่ยวบาดเจ็บสาหัส และเป็นผู้ชนะแต่ถูกแทงด้วยปลายทวน ฮ่องเต้จำใจต้องประกาศสมรสพระราชทานด้วยพระองค์เอง พร้อมแต่งตั้ง จิ้งไห่โหวซื่อจื่อ จ้าวเซี่ยว ขึ้นเป็นจิ้นหม่าแห่งเจียหนานจิ้นจวู่
แต่เป่าหนิงนึกสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะสายตาภายใต้หน้ากาก คล้ายเป็นดวงตาของหลี่เชียนอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อไทฮองไทเฮารู้เรื่องก็ยิ่งเป็นปลื้มหนักที่จ้าวเซี่ยว ยอมสละชีวิตทนบาดเจ็บเพื่อเป่าหนิงหลานรักถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งเป่าหนิงนำยาสมานแผลจากท่านยายไปให้ จิ้งไห่โหวซื่อจื่อ จึงได้รู้ความจริงว่าคนที่รับคมหอก ในการสู้กับองค์ชายชิ่งไท่ แท้จริงคือ หลี่เชียน และให้บ่าวคนสนิทคอยนำยาสมานแผลไปให้ จนความลับเรื่องนี้ ล่วงรู้ไปถึงหูหานฮองเฮา จึงนำเรื่องไปบอกต่อ องค์ชายชิ่งไท่
ในงานเลี้ยงฉลองสมรสพระราชทานวันต่อมา องค์ชายใหญ่ชิ่งไท่เข้าไปอาละวาด ทำลายเข้าของโวยวายต่อหน้าฮ่องเต้ว่าเล่นตุกติกเปลี่ยนคนลงแข่งขันแทน และท้าให้จ้าวเซี่ยวเปิดบาดแผลที่ถูกตนแทงให้ทุกคนดู จ้าวเซี่ยวจำต้องรับสารภาพ องค์ชายชิ่งไท่ จึงทวงการแต่งงานกับเจียหนานจิ้นจวู่ อีกครั้ง ฮ่องเต้ไม่ยอม องค์ชิ่งไท่จึงขู่ว่าจะส่งกำลังทหารสองแสน มาทำลายด่านชายแดน ก่อนจะหุนหันจากไปอย่างไม่ยำเกรงหน้าไหน
เห็นทุกคนนิ่งงันกับคำขู่เหมือนจะบีบให้เป่าหนิงต้องแต่งงานกับคนโฉด ไทฮองไทเฮาโมโหจึงแสร้งเป็นลมกลางท้องพระโรง ฮ่องเต้สบโอกาสประกาศยกเลิกงานแต่งระหว่าง เป่าหนิงกับจ้าวเซี่ยวทันที
หลี่เชียนอาศัยช่วงนี้ แอบนำสมุดภาพอาวุธเทวะวิญญาณ มาคืนให้เป่าหนิงที่ห้องพัก แต่ต้องเผชิญหน้ากับเจียหนานจิ้นจวู่ที่กลับมาทันเห็นพอดี เป่าหนิงพยายามจับโกหกว่าคนที่ช่วยนางออกมาคือหลี่เอ๋อร์ แต่เขาก็ปฏิเสธเสียงแข็ง จึงถามเรื่องสมุดภาพ ว่านำมาคืนตนทำไม หลี่เชียนบอกว่าอยู่กับนางน่าจะมีประโยชน์มากกว่า เป่าหนิงไม่สนใจเรื่องนั้น รุกถามเรื่องที่คาใจออกไปทันทีว่า “เจ้ารู้สึกกับข้าอย่างไร”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นิ่ง เจียงเป่าหนิงจึงสารภาพออกไปว่า “ข้าชอบเจ้า เจ้าจะพาพาข้าหนีไปให้สุดหล้าฟ้าเขียวหรือไม่” แต่เขากลับปฏิเสธ ความเสียใจ คับแค้นใจแล่นเป็นริ้วๆ เข้าสู่อก เป่าหนิงตบหน้าจอมซื่อบื้อเต็มแรง ด่าว่าเขาเป็นจอมขี้ขลาด
ความน้อยใจ ทำให้ เป่าหนิง ตัดสินใจแต่งงานกับองค์ชายใหญ่ชิ่งไท่ไปเป็นหวางเฟยแห่งหย่งชิ่ง เพื่อช่วยไม่ให้เกิดศึกสงครามกันอีกด้วย เฉาไทเฮาประกาศพระเสาวนีย์ออกไปให้ทราบโดยทั่วทั้งแผ่นดิน เตรียมงานสมรสพระราชทาน ไทฮองไทเฮา เสียใจหนักที่มิอาจช่วยหลานสาวสุดสวาทได้
แต่แล้วในระหว่างนั้นหลี่เชียน ก็ได้รับรายงานจากปิ่งโจวว่า องค์ชายใหญ่ชิ่งไท่ เคลื่อนกำลังพลสามกองทัพกว่าสองหมื่นคน มาประชิดชายแดนมู่อัน ไม่เท่านั้นยังให้ทหารหย่งชิ่ง แทรกซึมแฝงตัวเป็นราษฎรชาวบ้านมู่อันอีกด้วย จึงมั่นใจว่าชิ่งไท่จะใช้งานวิวาห์เป็นแผนเข้าโจมตีมู่อันอย่างแน่นอน
หลี่เชียนมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง ไปแจ้งเรื่องนี้กับ จวิ้นจู แต่เมื่อไม่หลักฐานก็ไม่สามารถล้มเลิกงานแต่งเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์สองแคว้นได้ นอกจากนี้เป่าหนิงยังบอกว่าเธอทำเพื่อมู่อัน บ้านเกิดเมืองนอน และประชาราษฎร์อีกด้วย หลี่เชี่ยนจากไป พร้อมให้คำสัญญาว่า เขาจะปกป้องท่านหญิงให้ปลอดภัยด้วยวิธีของเขาเอง
หลี่เชี่ยนตัดสินใจไปขอกำลังช่วยเหลือจากจ้าวเซี่ยว แต่พอถึงเวลานัดหมายอีกฝ่ายกลับถูก จ้าวควาน ผู้เป็นบิดาขังไว้ในจวนไม่ยอมให้ออกไปช่วยจวิ้นจู ตามที่รับปากกันเอาไว้ หลี่เชียนตัดสินใจไปช่วยเป่าหนิงพร้อมคนของตระกูลหลี่
อีกฟาก เจียหนานจิ้นจวู่ พบความผิดปกติระหว่างทางของขบวนส่งตัวเจ้าสาว และคิดว่าเป็นจริงดังที่หลี่เชียนเตือน จึงวางแผนสร้างความอลเวงขณะขบวนหยุดพักแล้วให้ หลิวเสี่ยวหม่าน บ่าวชายคนสนิทที่ร่วมขบวนมาด้วย รีบไปขอความช่วยเหลือจากเมืองจิ้นเทียนที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนจวิ้นจู่กับแยกกันหนีกับฉิงเค่อ โดยมี องค์ชายใหญ่ชิ่งไท่ พร้อมทหารไล่ล่าตามมาติดๆ
หลี่เชียนมาช่วยเป่าหนิงไว้ได้ แต่เป่าหนิงถูกพิษจากคมดาบของชาวหย่งชิ่ง แม้จะรักษาอาการได้ แต่พิษยังคงอยู่ในร่างกาย
เรื่องลุกลาม กลายเป็นเรื่องบาดหมางระหว่างสองแคว้น ไทฮองไทเฮา มอบหมายให้ซู่ซู่ อัญเชิญพระราชสาส์นเปล่าของฮ่องเต้พระองค์ก่อน และประทานสาส์นไปให้ 2 ฉบับ หนึ่งคือ สั่งให้ประหารหลี่เชียน แล้วให้เป่าหนิงกลับคืนเมืองหลวง อีกฉบับคือ ประทานสมรสพระราชทาน ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าจิ้นจวู่เลือกฉบับไหน เรื่องนี้ ถึงขั้นทำให้มิตรภาพระหว่าง หลี่เชียน กับ จ้าวเซี่ยวขาดสะบั้นลง คิดว่าหลี่เชียนหักหลังตน
เมื่อฮ่องเต้จ้าวอี้ รู้เรื่องก็ไม่พอใจมากสั่งให้ยกเลิกงานแต่งทันที แต่อำมาตย์ทูลทัดทาน และโน้มน้าวว่าการแต่งงานระหว่างจวิ้นจูกับทายาทตระกูลหลี่ ย่อมส่งผลดีต่อบัลลังก์ของพระองค์มากกว่าแต่งกับจ้าวเซี่ยว ตระกูลจิ้งไห่โหว เพราะจะเป็นการรวมอำนาจทางการทหาร และหากยกเลิกงานแต่ง จะเป็นการต่อต้านพระบิดา ฮ่องเต้พระองค์ก่อน ถือเป็นการอกตัญญู และจะถูกโจมตีเอาได้
แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ยอม ประกาศไม่คืนรับสั่ง ทำให้เสด็จย่า ไทฮองไทเฮา ต้องออกโรงเองอีกครั้งเพื่อช่วยหลานสาว จนฮ่องเต้จ้าวอี้ต้องจำใจยินยอมโดยดี
ขณะเดียวกัน เกาเมี่ยวหรง (รับบทโดย หลี่อี้เจิน) ลูกพี่ลูกน้องของหลี่เชียน ซึ่งแอบหลงรักหลี่เชียนมาตลอด ก็ประกาศไม่ยอมรับโชคชะตา จะแย่งชิง หลี่เชียน กลับมาเป็นของตนให้ถึงที่สุด
มาลุ้นว่าความรักของ หลี่เชียน กับ จางเป่าหนิง จะต้องเผชิญหน้าฝ่าอุปสรรคอะไรอีก และจะสุขสมหรือต้องแยกจากกัน อีกทั้งปมปริศนาการเสียชีวิตของ บิดามารดาของจวิ้นจู่ จะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของมารดาหลี่เชียน และสมุดภาพอาวุธเทวะวิญญาณอย่างไร และใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ที่แท้จริง
แนะนำตัวละครสำคัญ
จวีจิ้งอี รับบทเป็น ท่านหญิงเจียหนาน เจียงเป่าหนิง : ท่านหญิงแห่งตระกูลเจียงที่ได้รับการโปรดปรานจากฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังจาก จ้าวอี้ ขึ้นครองราชย์เขาก็หมายจะยกนางขึ้นเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์ เพียงแต่ว่า เจียงเป่าหนิง นั้นมิเพียงแต่ไม่มีใจปฏิพัทธ์ต่อญาติผู้พี่คนนี้นางยังหวงแหนอิสระภาพที่ตนมีจึงคิดหาวิถีทางในการหลบเลี่ยงการอภิเษกสมรสครั้งนี้ให้จงได้ คาแรกเตอร์ ซุกซน รักอิสระ ชื่นชอบการประดิษฐ์เครื่องกล มีไหวพริบ ทันคน จอมวางแผน
เจิงซุ่นซี รับบท หลี่เชียน บุตรชายของผู้ครองแคว้นปิ่งโจวรั้งตำแหน่งแม่ทัพโหยวจีขั้นห้าอยู่ภายใต้บังคับบัญชาผู้เป็นบิดาของตน ต่อมาเขาได้รับมอบหมายจากบิดาให้เข้าวังด้วยเหตุผลบางประการและมีโอกาสได้แสดงฝีมือต่อหน้าพระพักตร์ของไทเฮา พระนางจึงโปรดแต่งตั้งให้ หลี่เชี่ยน ดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์พกดาบขั้นสามรั้งตัวเขาไว้ในวังเพื่อเป็นหนทางสู่อำนาจที่มีอยู่ในมือของตระกูลหลี่ คาแรกเตอร์ เฉลียวฉลาด รัดกุมรอบคอบ โอนอ่อนผ่อนตาม วรยุทธ์ล้ำเลิศ เด็ดขาดหนักแน่น
วังจั๋วเฉิง รับบทเป็น จ้าวเซี่ยว : บุตรชาย จ้าวควาน (แห่งเขาหนานหมิน) ผู้ปกครองเมืองจิ้งไห่โหว เจ้าคารม เก่งกวี รักจริงหวังแต่งแต่เจียงเป่าหนิงนางเดียว
โจวจ้าวหยวน รับบทเป็น ฮ่องเต้จ้าวอี้ : หรือ อี้เอ๋อร์ ฮ่องเต้แห่งแคว้นมู่อัน เจ้าชู้ มีใจรักต่อเป่าหนิงและหวังผลประโยชน์จากการแต่งงานกับนาง
เวิ่งหง รับบทเป็น เฉาไทเฮา : เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน
เฉาชุ่ยเฟิน รับบทเป็น ไทฮองไทเฮา : ท่านยายของเจียงเป่าหนิง รักและห่วงใยหลานสาวมาก ที่ต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กๆ
หลี่อี้เจิน รับบทเป็น เกาเมี่ยวหรง : ลูกพี่ลูกน้องเติบโตมากับหลี่เชียน และหลงรักหลี่เชียน ตั้งแต่แตกเนื้อสาว ประกาศไม่ยอมรับโชคชะตา จะแย่งชิง หลี่เชียน มาเป็นของตนให้ถึงที่สุด